พืชต้องการธาตุอาหาร หรือ แร่ธาตุ สำหรับการเจริญเติบโตและการดำรงชีวิต โดยธาตุอาหารเหล่านี้ อยู่ในรูปของสารละลาย ภายในดิน ซึ่งรากมีการดูดซึมแร่ธาตุ โดยวิธีการแพร่ เข้าสู่ราก แล้วลำเลียงผ่านไปยังระบบท่อลำเลียงของพืช ที่เรียกว่า ไซเลม ก่อนส่งต่อไปทางยอดของพืช จะมีธาตุอาหารใดบ้างนั้น นักเรียนเข้ามาติดตามไปพร้อม ๆ กัน เลย
ตัวชี้วัดที่เกี่ยวข้อง
ว 1.2 ม. 1/14 อธิบายความสำคัญของธาตุอาหารบางชนิดที่มีผลต่อการเจริญเติบโตและการดำรงชีวิตของพืช
ว 1.2 ม.
1/15 เลือกใช้ปุ๋ยที่มีธาตุอาหารเหมาะสมกับพืชในสถานการณ์ที่กำหนด
ธาตุอาหารที่มีผลต่อการเจริญเติบโตและการดำรงชีวิตของพืช ประกอบไปด้วย 3 ชนิด ได้แก่ ธาตุอาหารหลัก ธาตุอาหารรอง และธาตุอาหารเสริม
1. ธาตุอาหารหลัก
ธาตุอาหารหลัก คือ ธาตุอาหารที่พืชจำเป็นต้องใช้ในปริมาณที่มาก ได้แก่ ธาตุอาหารที่มาจากอากาศ สำหรับการสังเคราะห์ด้วย แสง คือ C (คาร์บอน)O (ออกซิเจน) H(ไฮโดรเจน) ส่วนธาตุอาหารที่มาจากการดูดซึมทางดินคือ N(ไนโตรเจน) P(โพแทสเซียม) K (ฟอสฟอรัส)
ผลของธาตุอาหารหลักต่อการเจริญเติบโตและการดำรงชีวิตพืช
N (ไนโตรเจน)
ช่วยในการสร้างกรดอะมิโน โปรตีน และฮอร์โมนต่าง
ๆ เป็นส่วนประกอบของคลอโรฟิลล์ที่มีส่วนสำคัญในกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง
ช่วยให้ใบมีสีเขียว
อาการเมื่อพืชขาดธาตุอาหาร จะทำให้ใบซีด
เหลืองจากส่วนปลายเข้ามา ใบเล็ก แคระแกร็น
การเลือกปุ๋ยอินทรีย์สำหรับการขาดธาตุไนโตรเจน ควรเลือกปุ๋ยหมักที่มีส่วนประกอบของพืชตระกูลถั่ว
P(ฟอสฟอรัส)
ช่วยสร้างแป้ง
และน้ำตาลในกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง ช่วยกระตุ้นการออกดอกและราก การติดผล
สร้างเมล็ด
อาการเมื่อพืชขาดธาตุอาหาร
ใบแก่จะเปลี่ยนเป็นสีม่วง น้ำตาล และหลุดร่วง ไม่ติดผล รากเจริญเติบโตช้า หากต้องการเลือกปุ๋ยอินทรีย์สำหรับการขาดธาตุ
ฟอสฟอรัส ควรเลือกปุ๋ยที่หมักด้วยเศษอาหาร หรือ กระดูกป่น
K (โพแทสเซียม)
ช่วยในการสร้างโปรตีน กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง
มีส่วนในการสร้างความแข็งแรงและต้านทานโรคให้กับพืช
อาการเมื่อพืชขาดธาตุอาหาร ลำต้นไม่แข็งแรง และรสชาติและสีสันไม่สวยงาม รากไม่แข็งแรง ไม่สามารถต้านทานต่อโรคพืชได้ สามารถเพิ่มแร่ธาตุโพแทสเซียมให้กับพืชได้ โดยการใช้ปุ๋ยจากมูลสัตว์
2. ธาตุอาหารรอง
ธาตุอาหารรอง คือ ธาตุอาหารที่พืชต้องการในปริมาณน้อยลงมา
แต่ก็ขาดไม่ได้ หากขาดแล้วมีผลต่อการเจริญเติบโตและการดำรงชีวิตของพืช ได้แก่ Ca Mg S (Ca
คือ แคลเซียม Mg คือ แมกนีเซียม และ S คือ กำมะถัน)
สำหรับความสำคัญของธาตุอาหารรองของพืช
ก็มีความสำคัญ ไม่แพ้ธาตุอาหารหลัก เป็นอย่างไรตามมาดูกันค่ะ
Ca (แคลเซียม) ช่วยแบ่งเซลล์ ผสมเกสร
การเจริญของใบ และลำเลียงน้ำ เมื่อขาดพืชจะแสดงอาการ คือ ใบและตายอดไม่เจริญ
อาจมีจุดสีดำที่เส้นของใบ
Mg (แมกนีเซียม) เป็นส่วนประกอบของคลอโรฟิลล์
ช่วยดูดและลำเลียงแร่ธาตุฟอสฟอรัส เมื่อขาดพืชจะแสดงอาการ คือ ใบไม่สมบูรณ์
ใบที่แก่จะร่วงเร็วกว่าที่ควรจะเป็น
S (กำมะถัน) ช่วยในการเจริญเติบโตของรากและเมล็ด ช่วยให้พืชทนอากาศเย็น มีผลต่อการสร้างคลอโรฟิลล์ และช่วยพัฒนาส่วนยอดพืช อาการของพืชเมื่อขาด แมกนีเซียม คือ ลำต้นอ่อนแอ
3. ธาตุอาหารเสริม
ธาตุอาหารเสริม ได้แก่ Cu(ทองแดง) Cl(คลอรีน) B(โบรอน) Fe (เหล็ก)Mn(แมงกานีส) Mo (โมลิบดินัม )Zn(สังกะสี) Ni (นิกเกิล) สำหรับความสำคัญและอาการที่แสดงออกเมื่อพืชขาดธาตุอาหารเสริม แสดงดังตารางด้านล่างนี้
ธาตุอาหาร
|
ความสำคัญ
|
อาการของพืชเมื่อขาด
|
Cu
|
สร้างวิตามินเอ
เป็นส่วนประกอบของเอนไซม์ ช่วยในการหายใจและสังเคราะห์แสงของพืช
|
ลำต้นและยอดไม่สมบูรณ์
ใบอ่อนเป็นสีเหลือง เส้นใบเป็นสีชมพูขาว ใบเฉา ร่วงง่าย
|
Cl
|
เร่งการสร้างแป้ง และการสุกของผลไม้
สร้างฮอร์โมนและควบคุมการรักษาสมดุลน้ำในเซลล์ของพืช
|
ใบเหี่ยว เหลือง ซีด แห้งตาย บางครั้งใบจะเป็นสีบลอนด์
|
B
|
ช่วยในการออกดอก ผสมเกสร และการติดผล
|
ตายอด การแตกกิ่ง ผลเล็กและแข็งผิดปกติ
มีเปลือกหนา บางทีผลแตกเป็นแผลได้
|
Fe
|
ช่วยในการสร้างคลอโรฟิลล์
ช่วยในการหายใจและการสังเคราะห์แสงของพืช
|
ใบอ่อนขาวซีด
|
Mn
|
ช่วยในกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง
|
ใบอ่อนเหลืองจาง เส้นใบยังคงเขียวสด
แต่ใบเหี่ยวเฉา และร่วงง่าย
|
Mo
|
ช่วยสร้างโปรตีน และช่วยให้การใช้ N ในพืชได้ดีขึ้น
|
ใบอ่อนม้วน มีสีเหลืองอ่อน
มีจุดขึ้นตามใบ ต้นแคระแกร็น
|
Zn
|
ช่วยสร้างฮอร์โมนออกซิน
สร้างคลอโรฟิลล์ และสร้างแป้งในกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง
|
ใบอ่อนมีสีขาวซีดขณะที่ใบแก่ยังเขียวส
ตา ยอดและข้อปล้องไม่ขยาย ใบออกมาซ้อน ๆ
|
Ni
|
ช่วยในการงอกของเมล็ด ช่วยในการทำงานของเอนไซม์ยูเรส
|
ปลายใบจะตาย และใบขนาดเล็ก
|
4. การเลือกใช้ปุ๋ย
ปุ๋ยเคมีที่มีขายทั่วไป
มีหลากหลายชนิด และมีอัตราส่วนที่แตกต่างกันไป เช่น ปุ๋ยสูตร 15-15-15
เป็นปุ๋ยที่มีอัตราส่วนของธาตุอาหาร N P และ K ในอัตราส่วนที่เท่ากัน
ซึ่งในบางกรณีพืชอาจไม่ต้องการแร่ธาตุในปริมาณที่เท่ากันทั้งหมด ทั้งนี้
การเลือกสูตรหรือชนิดของปุ๋ยควรพิจารณาจากความต้องการ และอาการที่พืชแสดงออกมา
เพื่อที่จะทำให้การใช้ปุ๋ยตรงกับความต้องการของพืชมากที่สุด
เมื่อนักเรียนได้รับทราบแล้วว่า
พืชมีความต้องการแร่ธาตุ แต่ละชนิดอย่างไร และจะมีอาการผิดปกติอย่างไร
หากขาดธาตุอาหารเหล่านั้น ฉะนั้นนักเรียนสามารถนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในการปลูกพืชผักสวนครัว
ไม้ดอกไม้ประดับ โดยการดูแล และเลือกใช้ปุ๋ยให้มีความเหมาะสมกับความต้องการ
และแก้ไขอาการของพืชอันเนื่องมาจากการที่พืชขาดธาตุอาหารได้
สรุปความรู้ที่ได้
แร่ธาตุที่พืชต้องการสำหรับการดำรงชีวิตและการเจริญเติบโตแบ่งเป็น
3 ประเภท ได้แก่ แร่ธาตุอาหารหลัก ได้แก่ ธาตุอาหารที่มาจากอากาศ
สำหรับการสังเคราะห์ด้วย แสง คือ C (คาร์บอน)O (ออกซิเจน) H (ไฮโดรเจน) ส่วนธาตุอาหารที่มาจากการดูดซึมทางดินคือ
N(ไนโตรเจน) P(โพแทสเซียม) K (ฟอสฟอรัส) แร่ธาตุอาหารรอง
ได้แก่ Ca(แคลเซียม) Mg(แมกนีเซียม) S (กำมะถัน) และ แร่ธาตุอาหารเสริม
ได้แก่ Cu(ทองแดง) Cl(คลอรีน) B(โบรอน) Fe (เหล็ก)Mn(แมงกานีส) Mo (โมลิบดินัม
)Zn(สังกะสี) Ni (นิกเกิล)
ซึ่งเมื่อพืชขาดแร่ธาตุชนิดใดชนิดหนึ่งย่อมส่งผลต่อการดำรงชีวิตและการเจริญเติบโตของพืช
ซึ่งความรู้ที่ได้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการเลือกปุ๋ยที่เหมาะสมสำหรับพืชได้
นักเรียนศึกษาจบแล้วทำใบกิจกรรม 👉👉👉ธาตุอาหารที่จำเป็นในการดำรงชีวิตของพืช
ขอบคุณบทความ
ว่าด้วยเรื่อง ธาตุอาหารของพืชที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต
ธาตุอาหารพืช (plant nutrients)
ขอบคุณรูปภาพ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น